บริการคลังสินค้าปลอดภาษี

ทำไมธุรกิจนำเข้า-ส่งออกต้องใช้บริการคลังสินค้าปลอดภาษี

10 ประโยชน์หลายธุรกิจจะได้รับหากใช้บริการคลังสินค้าปลอดภาษี

ในโลกแห่งการค้าในปัจจุบันนั้นเราจะพบว่าการนำเข้า และ ส่งออกสินค้าเป็นธุรกิจที่มีความซับซ้อน และ ต้องเกี่ยวข้องกับกฎระเบียบทางศุลกากร ภาษี และ การจัดการโลจิสติกส์ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจอย่างยิ่ง ซึ่งหนึ่งในกลยุทธ์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และ ลดต้นทุนให้กับธุรกิจนำเข้า-ส่งออก คือ การใช้บริการคลังสินค้าปลอดภาษี หรือ Free Trade Zone (FTZ) หรือ Bonded Warehouse ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานศุลกากรให้สามารถเก็บสินค้าได้โดยไม่ต้องชำระภาษี และ อากรขาเข้าจนกว่าสินค้าจะถูกส่งออก หรือ นำเข้าสู่ตลาดภายในประเทศ ดังนั้นในบทความนี้ เราจะมาดูกันว่าทำไมธุรกิจนำเข้า-ส่งออกจึงควรใช้บริการคลังสินค้าปลอดภาษี และ ข้อดีที่ได้รับจากบริการนี้เป็นอย่างไรบ้างกัน

10 เหตุผลที่ทำไมหลายๆคนจึงเลือกใช้บริการคลังสินค้าปลอดภาษีในธุรกิจนำเข้า-ส่งออก

  1. ช่วยลดต้นทุนภาษี และ อากรศุลกากร
    ในการใช้บริการคลังสินค้าปลอดภาษีนั้นจะช่วยให้ธุรกิจสามารถชะลอการจ่ายภาษี และ อากรขาเข้าออกไปก่อนจนกว่าสินค้าจะถูกนำออกไปจำหน่าย หรือ ใช้งานจริง ทำให้สามารถบริหารกระแสเงินสดได้ดีขึ้น นอกจากนี้ หากสินค้าถูกส่งออกไปยังประเทศอื่นโดยตรงจากคลังปลอดภาษี อาจได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า ซึ่งช่วยลดต้นทุนได้อย่างมาก
  2. เพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดการสต็อกสินค้า
    สำหรับบริการคลังสินค้าปลอดภาษีนั้นจะช่วยให้ธุรกิจสามารถเก็บสินค้าได้โดยไม่ต้องเร่งรีบในการนำเข้าเพื่อเสียภาษีทันที ทำให้สามารถปรับกลยุทธ์การจำหน่ายได้ตามความต้องการของตลาด อีกทั้งธุรกิจยังสามารถสำรองสินค้าไว้เพื่อรอช่วงเวลาที่เหมาะสมในการกระจายสินค้าไปยังลูกค้าได้อีกด้วย
  3. ปรับปรุงกระบวนการโลจิสติกส์ และ ลดเวลาในการดำเนินงาน
    ด้วยการใช้บริการคลังสินค้าปลอดภาษี ทำให้สินค้าสามารถถูกนำเข้ามาเก็บไว้ได้โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการเสียภาษีทันที ซึ่งช่วยลดเวลา และ ความซับซ้อนในกระบวนการทางศุลกากร ทำให้สามารถจัดส่งสินค้าได้รวดเร็ว และ มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  4. รองรับการประกอบ และ บรรจุภัณฑ์ในเขตปลอดภาษี
    สำหรับในบางประเทศอนุญาตให้มีการประกอบ การติดฉลาก หรือ การบรรจุสินค้าภายในคลังสินค้าปลอดภาษีได้ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถทำการปรับแต่งสินค้าให้ตรงกับความต้องการของตลาดเป้าหมายก่อนการจัดส่งโดยไม่ต้องเสียภาษีขาเข้า นี่เป็นข้อได้เปรียบสำหรับธุรกิจที่ต้องการปรับเปลี่ยนสินค้าให้เหมาะสมกับแต่ละประเทศที่ต้องการจำหน่าย
  5. ลดความเสี่ยงด้านภาษี และ กฎระเบียบศุลกากร
    การใช้บริการคลังสินค้าปลอดภาษีนั้นจะช่วยลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการชำระภาษี และ อากรล่วงหน้าได้ อีกทั้งหากสินค้ายังไม่ถูกนำออกจากคลัง หรือ มีการเปลี่ยนแปลงทางการตลาด ธุรกิจสามารถเลือกที่จะส่งคืน หรือ ส่งออกสินค้าไปยังตลาดอื่นๆได้โดยไม่ต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายภาษีที่ไม่จำเป็น
  6. อำนวยความสะดวกในการขยายตลาดระหว่างประเทศ
    หากเป็นธุรกิจที่ต้องการขยายตลาดไปยังประเทศต่างๆ สามารถใช้บริการคลังสินค้าปลอดภาษีให้เป็นจุดกระจายสินค้าไปยังหลายๆประเทศได้โดยไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าซ้ำซ้อน วิธีนี้ช่วยให้บริษัทสามารถเข้าถึงตลาดใหม่ได้ง่ายขึ้น และ ลดต้นทุนการส่งออกสินค้า
  7. เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการสินค้าคงคลัง
    บริการคลังสินค้าปลอดภาษีช่วยให้ธุรกิจสามารถเก็บสินค้าจำนวนมากได้โดยไม่ต้องแบกรับภาระภาษีในทันที ทำให้สามารถวางแผนการกระจายสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงของการขาดแคลนสินค้าในช่วงเวลาที่มีความต้องการสูง
  8. ลดภาระด้านเอกสาร และ กระบวนการศุลกากร
    ในการนำเข้า และ ส่งออกสินค้าผ่านบริการคลังสินค้าปลอดภาษีจะช่วยลดขั้นตอนการทำเอกสารทางศุลกากร เนื่องจากสินค้าจะถูกเก็บไว้โดยไม่ต้องเสียภาษีทันที ทำให้ธุรกิจสามารถดำเนินการได้รวดเร็วขึ้น ลดปัญหาความล่าช้า และ ช่วยลดภาระงานด้านเอกสารที่ซับซ้อน
  9. ปรับตัวตามนโยบายทางเศรษฐกิจ และ กฎระเบียบของแต่ละประเทศ
    สำหรับธุรกิจที่ต้องการปรับตัวตามกฎหมาย และ ภาษีที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา สามารถใช้บริการคลังสินค้าปลอดภาษี ที่เป็นเครื่องมือในการวางแผนภาษี และ กลยุทธ์การจัดเก็บสินค้าให้เหมาะสมกับสถานการณ์เศรษฐกิจ และ นโยบายภาษีของแต่ละประเทศได้อย่างเหมาะสม
  10. เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ
    การใช้บริการคลังสินค้าปลอดภาษีนั้นจะช่วยให้ธุรกิจสามารถลดต้นทุน เพิ่มความยืดหยุ่น และ ปรับตัวตามความต้องการของตลาดได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลให้ธุรกิจสามารถแข่งขันในระดับสากลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ สามารถเสนอราคาสินค้าที่แข่งขันได้ในตลาดโลก

จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่าการใช้บริการคลังสินค้าปลอดภาษีเป็นกลยุทธ์ที่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับธุรกิจนำเข้า-ส่งออก ช่วยให้สามารถลดต้นทุนด้านภาษี เพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดการสต็อกสินค้า ปรับปรุงกระบวนการโลจิสติกส์ และ ขยายตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ธุรกิจที่ต้องการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกควรพิจารณาการใช้บริการนี้เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และ ลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานข้ามพรมแดน

ดังนั้นหากสนใจในการใช้บริการเราขอแนะนำ บริษัท โรเจอร์ กรุงเทพ จำกัด ซึ่งมีระบบการขนส่งระหว่างประเทศที่ได้มาตรฐาน อีกทั้งยังมีบริการคลังสินค้าปลอดภาษี และ มีบริการอื่นๆอย่างมืออาชีพ อีกทั้งยังมีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ และ ประสบการณ์ ในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทุกชนิดโดยเฉพาะ อีกทั้งยังมี ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา ทางด้านการขนส่งสินค้า ได้หลากหลายประเภท สามารถขอคำแนะนำกับทางเราได้ตลอดเวลา ทางเรามีทีมงานคอยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้กับลูกค้าได้อย่างทันที เราจึงมั่นใจว่าจะบริการทุกธุรกิจได้อย่างราบรื่นนั้นเอง

ติดต่อสอบถาม

Website : https://www.rogers-thailand.com/th/
Facebook : https://shorturl.asia/USdpj
E-mail : infoth@rogers-asia.com
Tel : 02 752 6417