วางแผน Logistics

การวางแผนการขนส่งระหว่างประเทศให้มีประสิทธิภาพและประหยัดต้นทุน

การวางแผนขนส่งระหว่างประเทศที่ดีจะช่วยให้มีทั้งระบบ Logistics ที่มีประสิทธิภาพและช่วยประหยัดต้นทุน

ในการทำธุรกิจสิ่งสำคัญคือการลดต้นทุนของธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้ธุรกิจสามารถสร้างผลกำไรแต่ยังคงคุณภาพไว้ได้ การขนส่งเป็นหนึ่งในต้นทุนที่มักมีผลต่อต้นทุนของธุรกิจโดยเฉพาะราคาสินค้า

จึงทำให้ธุรกิจที่ต้องมีการขนส่งสินค้าเพื่อกระจายสินค้าไปยังลูกค้าต้องมีการควบคุมต้นทุนในการขนส่งโดยเฉพาะการขนส่งระหว่างประเทศ ซึ่ง Air freight Sea freight เป็นประเภทการขนส่งระหว่างประเทศที่นิยมใช้ในการขนส่งสินค้า Air freight มีความรวดเร็วในการขนส่ง ส่วน Sea freight สามารถขนส่งสินค้าจำนวนมาก ๆ ได้ ซึ่งบริษัทที่ต้องมีการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศที่มีการบริหาร Logistics ที่ดีที่มีประสิทธิภาพจะสามารถช่วยลดต้นทุนธุรกิจได้เป็นอย่างดี ดังนั้นในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศในทุก ๆ ครั้งควรต้องมีการวางแผนการขนส่งเพื่อที่จะสร้างความมั่นใจว่าสินค้าจะถูกส่งอย่างปลอดภัย ตรงเวลา และที่สามารถช่วยลดต้นทุนของธุรกิจได้

เคล็ดลับการวางแผนขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ช่วยลดต้นทุน เสริมประสิทธิภาพ Logistics

  1. เลือกประเภทขนส่งให้เหมาะสมกับประเภทของสินค้าและปริมาณ
    ประเภทและปริมาณของสินค้ามีผลเป็นอย่างมากต่อต้นทุนของการขนส่ง เพราะการขนส่งแต่ละประเภทมีความเหมาะสมในการขนส่งสินค้าที่แตกต่างกัน ดังนั้นก่อนทำการขนส่งบริษัทสินค้าที่มีส่วนของ Logistics จะต้องมีการวางแผนการขนส่งที่ต้องเลือกประเภทของการขนส่งให้เหมาะสมกับประเภทของสินค้าและปริมาณเพราะมีผลต่อค่าใช้จ่ายในการขนส่ง โดยหากเป็นสินค้าที่ต้องใช้เร่งด่วน สามารถเน่าเสียได้ง่าย มีมูลค่าสูง มีน้ำหนักเบา ขนาดเล็ก และมีปริมาณไม่มาก เหมาะกับการขนส่ง Air Freight เพราะมีความรวดเร็วในการจัดส่ง มีความปลอดภัยสูง

    และสามารถติดตามสินค้าได้ แต่ก็มีราคาค่าบริการที่สูงด้วยเช่นเดียวกัน ส่วนสินค้าที่มีปริมาณมาก ไม่เน่าเสียง่าย เหมาะสมกับ Sea Freight เพราะมีค่าใช้จ่ายที่ถูกแต่มีระยะเวลาในการขนส่งที่นาน ซึ่งข้อจำกัดของการขนส่งทั้งสองประเภททำให้ต้องมีการวางแผนการขนส่งเพื่อลดโอกาสการเกิดความเสียหายของสินค้าและเกิดการสูญเปล่าที่จะทำให้กลายเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นโดยไม่มีความจำเป็น ซึ่งการวางแผนดังกล่าวจะช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการขนส่งได้เป็นอย่างดี และเมื่อวางแผนเสร็จแล้วสามารถส่งข้อมูลให้กับบริษัทชิปปิ้งที่ให้บริการโลจิสติกส์ ที่จะคอยดูแลกระบวนการขนส่งสินค้าเพื่อให้สินค้าไปถึงปลายทางได้อย่างสมบูรณ์


  2. วางแผนเส้นทางการเดินทางที่มีประสิทธิภาพ
    แน่นอนว่าการเดินทางทั้ง Air Freight Sea Freight ในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศไม่ได้มีเส้นทางในการเดินทางแค่เส้นทางเดียวเท่านั้น ดังนั้นบริษัทที่ต้องการส่งสินค้าไปต่างประเทศจึงต้องทำการวางแผนการเดินทางล่วงหน้าเพื่อกำหนดเส้นทางที่มีประสิทธิภาพและมีระยะทางที่สั้นมากที่สุดที่จะก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายในการขนส่งน้อยที่สุด การวางแผนเส้นทางในการขนส่งที่ดีและเหมาะสมจะมีการนำปัจจัยหลาย ๆ ด้านเข้ามาร่วมพิจารณา เช่น Air Freight จะมีการตรวจเช็คสภาพอากาศในช่วงเวลาที่ขนส่ง, ระยะทางของท่าอากาศยานทั้งต้นทางและปลายทางเพื่อคำนวนระยะทาง รวมไปถึงตารางเวลาเที่ยวบินและจำนวนสายการบินขนส่งในแต่ละท่าอากาศยาน, ค่าขนส่ง, ค่าธรรมเนียม และความน่าเชื่อถือของสายการบิน ส่วน Sea Freight ก็มีปัจจัยในการเลือกเส้นทางที่คล้ายกับ Air Freight เช่น ท่าเรือต้นทางและปลายทาง, ตารางเวลาในการเดินเรือ, ค่าขนส่ง, ค่าธรรมเนียม แต่อาจจะต้องมีเรื่องของประสบการณ์ในการขนส่งสินค้าทางทะเลเพื่อสร้างความมั่นใจว่าปลายทางจะได้รับสินค้าที่ตรงเวลาและมีความปลอดภัย รวมไปถึงกฎระเบียบทางการค้าและความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศด้วย

    ซึ่งการวางแผนการเดินทางล่วงหน้าจะเป็นผลดีอย่างมากสำหรับการบริหารจัดการ Logistics หากพบปัญหาจะทำให้สามารถแก้ไขได้ทันท่วงทีโดยที่ไม่ทำให้เกิดการสูญเปล่าทั้งด้านเวลาและค่าใช้จ่ายซึ่งถือว่าเป็นต้นทุนที่สำคัญสำหรับการทำธุรกิจ แต่หากบริษัทที่ต้องการขนส่งสินค้าต้องการให้บริษัทชิปปิ้งวางแผนเส้นทางในการขนส่งบริษัทชิปปิ้งก็สามารถทำได้ แต่อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหรืออาจรวมอยู่ในค่าขนส่งแล้วซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตกลงกันระหว่างบริษัทชิปปิ้งและบริษัทเจ้าของสินค้าดังกล่าว


  3. การเลือกบริษัทชิปปิ้ง
    ในปัจจุบันมีบริษัทชิปปิ้งที่ให้บริการโลจิสติกส์เกิดขึ้นมามากมายซึ่งแต่ละบริษัทก็มีเงื่อนไขการให้บริการและราคาที่แตกต่างกัน ดังนั้นในการเลือกบริษัทชิปปิ้งเพื่อให้มาขนส่งสินค้าระหว่างประเทศจึงต้องมีความพิธีพิถันในการเลือก เพราะการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศมีระบบขั้นตอนที่ซับซ้อนที่ต้องอาศัยทั้งความชำนาญและประสบการณ์จึงจะสามารถขนส่งสินค้าให้ถึงปลายทางได้อย่างปลอดภัย ดังนั้นจึงควรนำข้อมูลของบริษัทชิปปิ้งแต่ละบริษัทนำมาเปรียบเทียบกันเพื่อให้ได้บริษัทชิปปิ้งที่มีคุณภาพและสามารถช่วยลดต้นทุนให้กับธุรกิจได้มากที่สุด โดยปัจจัยที่จะนำมาใช้ในการเปรียบเทียบจะมีเรื่องของราคาในการขนส่งซึ่งควรนำมาเปรียบเทียบประมาณ 3-5 บริษัท รวมไปถึงประสบการณ์ในการบริหารจัดการ Logistics เทคโนโลยีที่นำมาใช้ในการบริหารจัดการ Logistic การมีใบอนุญาตประกอบธุรกิจชิปปิ้งที่ถูกต้อง และบริการเสริมต่าง ๆ ที่จะเอื้อต่อการขนส่งสินค้าให้มีประสิทธิภาพและช่วยลดต้นทุนของธุรกิจได้ โดยควรพิจารณาบริษัทที่มีบริการ ราคา และมาตรฐานที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์และงบประมาณในการขนส่งของบริษัทให้มากที่สุด


  4. การวางแผนในการบรรจุสินค้าให้เต็มความจุ
    เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเพราะการ บรรจุสินค้าให้เต็มความจุจะช่วยลดต้นทุนในการขนส่งได้เป็นอย่างมาก เพราะจะทำให้รอบในการขนส่งสินค้าน้อยลง นอกจากนี้การบรรจุสินค้าให้เต็มความจุยังช่วยลดโอกาสที่จะเกิดความเสียหายจากการขนส่งได้อีกด้วย ซึ่งบริษัทชิปปิ้งบางบริษัทจะมีบริการในการคำนวนการบรรจุสินค้าสินค้าให้เต็มความจุซึ่งบางบริษัทอาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่ในบ้างบริษัทค่าใช้จ่ายอาจจะถูกรวมอยู่ในค่าขนส่งแล้ว โดยในการคำนวนการบรรจุสินค้าจะมีการวัดขนาด ชั่งน้ำหนัก เพื่อเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสม และในบางบริษัทชิปปิ้งจะมีการใช้เทคโนโลยีในการคำนวนการบรรจุสินค้าให้เต็มความจุ เพื่อให้สามารถใช้พื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดซึ่งสามารถช่วยลดต้นทุนได้เป็นอย่างมากสำหรับบริษัทที่ต้องการส่งสินค้าไปยังต่างประเทศ


  5. การเลือกบริษัทประกันภัยสินค้า
    การขนส่งสินค้าระหว่างประเทศมีความเสี่ยงที่สินค้าจะมีความสูญหาย เสียหาย หรือล่าช้า ดังนั้นบริษัทที่ต้องการส่งสินค้าไปต่างประเทศจึงควรต้องทำประกันภัยสำหรับสินค้าเพื่อช่วยลดการสูญเสียเงินที่อาจเกิดขึ้นจากการขนส่ง ประกันภัยจะคุ้มครองความเสียหายของสินค้าที่เกิดจากสินค้าสูญหาย สูญหายบางส่วน หรือเสียหายระหว่างการขนส่ง รวมไปถึงสินค้าล่าช้า สินค้าถูกกักตัว สินค้าถูกทำลาย และสินค้าที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลที่สามหรือทรัพย์สินของบุคคลที่สาม ซึ่งการเลือกบริษัทประกันภัยในการขนส่งระหว่างประเทศควรมีการเปรียบเทียบรายละเอียดกรมธรรม์ประกันภัย ความคุ้มครอง เบี้ยประกันภัย และบริการต่าง ๆ จากหลาย ๆ บริษัทประกันภัย

    นอกจากนั้นควรพิจารณาชื่อเสียงของบริษัทประกันภ้ยที่มีความน่าเชื่อถือ และความมั่นคงทางการเงินซึ่งหากต้องมีการชดใช้ค่าเสียหายก็มีความสามารถที่จะชดใช้ให้กับผู้ที่ทำประกันภัยได้ ซึ่งหากบริษัทที่ต้องการส่งสินค้าไปต่างประเทศสามารถเลือกซื้อประกันภัยจากบริษัทประกันที่มีความมั่นคงและมีการคุ้มครองที่คุ้มค่ากับเบี้ยประกันที่จ่ายไป ก็ถือว่าช่วยลดต้นทุนของธุรกิจได้เป็นอย่างดีหากเกิดความเสียหายขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ตามในบริษัทชิปปิ้งบางแห่งอาจมีบริการเสริมในการจัดหาประกันภัยให้กับลูกค้าโดยลูกค้าสามารถเลือกซื้อหรือไม่ซื้อประกันภัยจากบริษัทชิปปิ้งก็ได้

 

การขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเป็นกระบวนการที่มีความซับซ้อนอีกทั้งในการส่งสินค้าแต่ละครั้งก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงซึ่งยังไม่รวมกับมูลค่าของสินค้าที่มีการจัดส่งไป ดังนั้นในการขนส่งแต่ละครั้งจึงต้องมีการวางแผนการขนส่งระหว่างประเทศเพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายให้เป็นไปตามที่กำหนด ซึ่งหากมีการวางแผนการขนส่งที่ดีและมีประสิทธิภาพนอกจากจะช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายได้แล้วยังสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ซึ่งเป็นการลดต้นทุนให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดี

 

แต่หากต้องการบริษัทชิปปิ้งที่มีความเป็นมืออาชีพที่จะช่วยในการวางแผนการขนส่งสินค้า บริษัท โรเจอร์ กรุงเทพ จำกัด สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้เพราะบริษัทมีบริการการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ทั้งทางอากาศ ทางเรือ และทางบก โดยมีเจ้าหน้าที่ชิปปิ้ง(shipping services) และประสานงานกรมศุลกากร (custom clearance) ที่จะคอยดำเนินการและคอยให้คำปรึกษากับลูกค้าในทุกขั้นตอน นอกจากนี้ยังมีทีมงานที่มีความเป็นมืออาชีพที่ผ่านการอบรมทักษะสำคัญในการบรรจุและขนย้ายตามมาตรฐานสากล โดยเฉพาะสินค้าที่มีความละเอียดสูงหรือแตกหักง่าย เช่น ฟอสซิล เครื่องสังคโลก โบราณวัตถุ และรูปปั้นต่าง ๆ รวมไปถึงอาหารและเครื่องดื่มที่ต้องการการควบคุมอุณหภูมิหรือการจัดเก็บเฉพาะประเภท โดยมีการใช้เทคโนโลยีและมาตรฐานใหม่ ๆ เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมบริการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
INTERNATIONAL LOGISTICS SERVICES
Tel : +66 (0) 2 180 0280
Mobile : 06-4181-1587
Email : infoth@rogers-asia.com

ผลงานของเรา