ขนส่งระหว่างประเทศ

มาตรฐานความปลอดภัยในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ

8 มาตรฐานการขนส่งระหว่างประเทศที่ผู้ประกอบการจำเป็นต้องเข้าใจ

ในปัจจุบันการส่งออกระหว่างประเทศนั้นมีอัตราที่เพิ่มสูงขึ้นเพราะกำลังซื้อของผู้บริโภคที่มีการปรับตัวได้ดีขึ้นตามเศรษฐกิจโลกที่กำลังฟื้นตัว โดยเฉพาะการเดินทางท่องเที่ยว และ การขนส่งสินค้าทางอากาศ บริษัทขนส่งระหว่างประเทศแต่ละแบรนด์จึงเกิดการแข่งขันกันอย่างมากในช่วงเวลานี้ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับลูกค้าได้มากที่สุดมาตรฐานความปลอดภัยในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในการรับรองว่าการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเป็นไปอย่างปลอดภัย รวดเร็ว และ มีประสิทธิภาพ โดยทั่วไปแล้ว มาตรฐานเหล่านี้จะครอบคลุมทั้งด้านความปลอดภัยของสินค้า บุคลากร และ การปฏิบัติตามกฎหมายสากลเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ และ การสูญเสียสินค้าระหว่างการขนส่ง มาตรฐานที่ใช้กันอย่างแพร่หลายดังนั้นเราจะมาแนะนำมาตรฐานความปลอดภัยขนส่งระหว่างประเทศว่ามีอะไรบ้าง

มาตรฐานความปลอดภัยการขนส่งระหว่างประเทศ

  1. มาตรฐาน ISO 28000 (Supply Chain Security Management System)
    ISO เป็นมาตรฐานสากลที่เกี่ยวกับการจัดการความปลอดภัยในห่วงโซ่อุปทาน เพื่อป้องกันภัยคุกคามและ ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการขนส่งระหว่างประเทศ ซึ่ง ISO 28000 ครอบคลุมการระบุ และ ประเมินความเสี่ยงในกระบวนการขนส่ง การป้องกันการโจรกรรม และ การตรวจสอบให้มั่นใจว่ามีการปฏิบัติตามมาตรฐานที่กำหนดของมาตรฐานสากล
  2. มาตรฐาน International Maritime Dangerous Goods Code (IMDG)
    อีกหนึ่งมาตรฐาน IMDG เป็นมาตรฐานเกี่ยวกับการขนส่งระหว่างประเทศที่เป็นอันตรายทางทะเล ซึ่งกำหนดโดยองค์กรทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) ซึ่ง IMDG Code ครอบคลุมการจัดการสินค้า และ บรรจุภัณฑ์ของสินค้าที่มีอันตราย เช่น สารเคมี วัตถุไวไฟ วัตถุมีพิษ โดยมีระบุข้อกำหนดเกี่ยวกับการทำฉลาก การเก็บรักษา และ การขนถ่ายสินค้า ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้
  3. มาตรฐาน ICAO-TI (Technical Instructions for the Safe Transport of Dangerous Goods by Air)
    มาตรฐานนี้เป็นข้อกำหนดเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าบนเครื่องบินที่เป็นอันตราย กำหนดโดยองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ซึ่งข้อกำหนดนี้ใช้ในการควบคุมการขนส่งระหว่างประเทศประเภทสินค้าที่มีวัตถุไวไฟ สารเคมี หรือ สินค้าที่เป็นอันตรายทางอากาศ โดยระบุวิธีการบรรจุ และ การติดฉลากเพื่อความปลอดภัย
  4. มาตรฐาน TAPA (Transported Asset Protection Association)
    โดยเป็นมาตรฐานความปลอดภัยที่องค์กรหลายแห่งใช้ในการป้องกันการโจรกรรมสินค้าในระหว่างการขนส่งระหว่างประเทศ หรือ จัดเก็บในโกดัง ซึ่งเป็น TAPA FSR (Facility Security Requirements) และ TAPA TSR (Trucking Security Requirements) เป็นมาตรการเพื่อกำหนดการรักษาความปลอดภัยในสถานที่ และ ยานพาหนะที่ใช้ในการขนส่ง
  5. Customs-Trade Partnership Against Terrorism (C-TPAT)
    เป็นอีกหนึ่งมาตรฐานการขนส่งระหว่างประเทศที่ดำเนินการโดยสหรัฐอเมริกาเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในห่วงโซ่อุปทาน โดยมุ่งเน้นให้บริษัทที่มีส่วนร่วมในกระบวนการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด เพื่อป้องกันภัยคุกคามจากการก่อการร้าย
  6. มาตรฐาน ISPS Code (International Ship and Port Facility Security Code)
    ซึ่งมาตรฐานการขนส่งระหว่างประเทศนี้กำหนดโดย IMO เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับท่าเรือ และ เรือที่ขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ โดยกำหนดให้ท่าเรือ และ เรือปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อป้องกันการก่อการร้าย และ อาชญากรรม
  7. มาตรฐาน ADR (European Agreement Concerning the International Carriage of Dangerous Goods by Road)
    เป็นข้อกำหนดเกี่ยวกับการขนส่งระหว่างประเทศที่เป็นอันตรายทางถนนในยุโรป ครอบคลุมการบรรจุ การติดฉลาก และ ข้อกำหนดเกี่ยวกับยานพาหนะ และ อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยในการขนส่งระหว่างประเทศในแถบยุโรป
  8. มาตรฐานการติดฉลาก และ บรรจุภัณฑ์ (Labeling and Packaging Standards)
    มาตรฐานนี้กำหนดข้อกำหนดเกี่ยวกับการติดฉลากที่เหมาะสมสำหรับสินค้าที่ขนส่งระหว่างประเทศ เช่น การแสดงข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าที่เป็นอันตราย น้ำหนักของสินค้า หรือ การระบุวิธีการจัดเก็บ และ ขนย้ายที่ถูกต้องซึ่งการบรรจุภัณฑ์สินค้าต้องสามารถป้องกันความเสียหาย และ ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการขนส่ง เช่น การบรรจุภัณฑ์ที่กันน้ำ การใช้วัสดุที่สามารถป้องกันการกระแทกนั้นเอง

จากที่กล่าวมาทั้งหมดจะเห็นได้ว่ามาตรฐานเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการรับรองความปลอดภัยของการขนส่งระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งสินค้าทางบก ทะเล หรือ อากาศ การปฏิบัติตามมาตรฐานเหล่านี้ช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่อสินค้า หรือ บุคลากร ซึ่งดำเนินการตามแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดของอุตสาหกรรม แต่ยังสามารถเพิ่มความมั่นใจให้กับองค์กรในการแข่งขันในตลาด, เพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการทำงาน สร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้า รวมทั้งช่วยให้องค์กรดำเนินการงานอยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดไว้ได้อีกด้วยหากสนใจในการบริการขนส่งระหว่างประเทศเราขอแนะนำ บริษัท โรเจอร์ กรุงเทพ จำกัด ซึ่งมีระบบการขนส่งระหว่างประเทศที่หลากหลายทุกประเภท ได้อย่างมืออาชีพ อีกทั้งยังมีบุคคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ และ ประสบการณ์ ในการขนส่งสินค้าทุกชนิดโดยเฉพาะ อีกทั้งยังมี ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา ทางด้านการขนส่งต่างๆ ได้หลากหลายสามารถขอคำแนะนำกับทางเราได้ตลอดเวลา ทางเรามีทีมงานคอยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้กับลูกค้าได้อย่างทันที เราจึงมั่นใจว่าจะบริการทุกธุรกิจได้อย่างราบรื่นนั้นเอง

ติดต่อสอบถาม

INTERNATIONAL LOGISTICS SERVICES
Tel : +66 (0) 2 180 0280
Mobile : 06-4181-1587
Email : infoth@rogers-asia.com

INTERNATIONAL RELOCATION
Tel: +66 (0) 2 752 6417
Mobile : 081-259-5333 , 065-820-4808
Email : exhibitions@rogers-asia.com