แนะนำนำเข้าสินค้าต่างประเทศโดยการผ่านพิธีการศุลกากร
การนำเข้าสินค้านั้นถือเป็นเรื่องที่หลายคนอาจจะทราบดีกันว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยุ่งยาก ในเรื่องของการทำเอกสารเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังต้องเสียค่าภาษีอากร ค่าธรรมเนียมต่างๆ หากนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศการดำเนินการผ่านพิธีการศุลกากรเป็นกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าสินค้า หรือ ส่งออกสินค้าจากประเทศต้นทาง โดยต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบ และข้อกำหนดที่กำหนดไว้ ซึ่งในวันนี้เราจะมาแนะนำการปฏิบัติทั่วๆ ไปของพิธีการศุลกากรอย่างถูกต้องเพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ประกอบการเข้าใจในกระบวนโดยทั่วไปว่ามีขั้นตอนอย่างไรบ้าง
การนำเข้าสินค้าในขั้นตอนผ่านพิธีการศุลกากรในประเทศไทยมีอย่างไรบ้าง
หากเราเป็นผู้ประกอบการที่ต้องการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศมาประเทศไทยนั้น แน่นอนว่าจะต้องผ่านการตรวจสอบกรมศุลกากร และเสียค่าภาษี หรือ ค่าธรรมเนียมต่างๆ จะขึ้นอยู่ปริมาณ ชนิด และ ขนาดของสินค้า ซึ่งหลายคนอาจจะทราบว่าการนำเข้าสินค้าจากประเทศนั้นยุ่งยาก แต่หากคุณปฏิบัติตามขั้นตอนพิธีการศุลกากรดังต่อไปนี้ก็จะช่วยทำให้คุณสามารถดำเนินการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศผ่านพิธีการศุลกากรไทยได้ง่ายๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน
แนะนำขั้นตอนการเตรียมทำพิธีการศุลกากร
- ขั้นตอนเตรียมเอกสาร
สำหรับการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ผู้ประกอบการจะต้องกรอกข้อมูลรายละเอียดต่างๆ อย่างละเอียด ดังต่อไปนี้ก่อนเริ่มกระบวนพิธีการศุลกากรอีกทั้งคุณต้องเตรียมเอกสารต่างๆ ให้ครบถ้วนได้แก่:- ใบตราส่งสินค้า (Bill of Lading/Air Waybill)
- ใบกำกับสินค้า (Invoice)
- บัญชีรายละเอียดสินค้า (Packing List)
- ใบอนุญาต (ถ้ามี) เช่น ใบอนุญาตนำเข้า-ส่งออก
- หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Certificate of Origin) (ถ้าจำเป็น)
- ใบขนสินค้าขาเข้า/ขาออก (Customs Declaration)
- การตรวจสอบพิกัด และ อัตราภาษี
โดยขั้นตอนต่อมาในการผ่านพิธีการศุลกากรนั้นหากผู้ประกอบการดำเนินการเองจำเป็นจะต้องตรวจสอบ และคำนวณอัตราภาษีด้วยตัวเอง แต่หากใช้บริการบริษัทชิปปิ้งที่ได้รับอนุญาตจากกรมศุลกากรจะสามารถดำเนินการขั้นตอนนี้ได้อย่างรวดเร็ว- ตรวจสอบ พิกัดศุลกากร (HS Code) ของสินค้า
- คำนวณ ภาษีอากรขาเข้า/ขาออก เช่น ภาษีศุลกากร, VAT, หรือ ภาษีสรรพสามิต (ถ้ามี)
- ยื่นใบขนสินค้า
ขั้นต่อมาในการผ่านพิธีการศุลกากรคือขั้นตอนการยื่นใบขนสินค้าเพื่อนำสินค้าออกจากท่าโดยจำเป็นจะต้องยื่นเอกสารผ่านทางออนไลน์เพื่อความสะดวกโดยมีขั้นตอนดังนี้- ใช้ ระบบ e-Customs (ในประเทศไทย) เพื่อยื่นเอกสารออนไลน์
- กรอกข้อมูลสินค้า เช่น รายละเอียดสินค้า มูลค่า พิกัดศุลกากร และ ต้นทาง
- ชำระภาษี และ ค่าธรรมเนียมต่างๆ
โดยหลังจากทำการยื่นเอกสารต่างๆ หมดแล้ว ก็จำเป็นจะต้องชำระภาษีตามที่เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรได้กำหนด โดย- หากศุลกากรกำหนดว่าต้องชำระภาษี ให้ดำเนินการชำระเงินผ่านธนาคารที่กำหนด
- โดยเก็บหลักฐานการชำระเงินไว้เพื่อแสดงหลักฐานต่อเจ้าหน้าที่
- ตรวจสอบ และ ตรวจปล่อยสินค้า
ขั้นตอนในการตรวจสอบท้ายๆ ของพิธีการศุลกากรนั้นเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจเอกสารเป็นขั้นสุดท้ายเพื่อนำปล่อยสินค้าต่อไป- เจ้าหน้าที่ศุลกากรอาจตรวจสอบเอกสาร หรือ ทำการตรวจสอบสินค้าจริง
- หากสินค้าถูกต้องตามเอกสาร จะได้รับการอนุมัติให้ผ่านในขั้นต่อไป
- ปล่อยสินค้า
ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนสุดท้าย โดยหลังจากที่เรายื่นใบขนสินค้าขาเข้า พร้อมกับใบเสร็จรับเงินที่ต้องจ่ายค่าภาษีอากรที่คลังสินค้า เจ้าหน้าที่ก็จะเข้ามาตรวจสอบข้อมูลเพื่อความถูกต้องอีกหนึ่งครั้ง และจะปล่อยสินค้าไปยังที่อยู่ของผู้นำเข้านั่นเอง- เมื่อกระบวนการทั้งหมดเสร็จสิ้น จะได้รับการปล่อยสินค้า (Cargo Release)
- คุณสามารถนำสินค้าออกจากเขตศุลกากรได้
- จัดส่งสินค้า (หากจำเป็น)
ผู้ประกอบการจำเป็นจะต้องเตรียมรถขนส่งเพื่อส่งไปยังที่หมายในขั้นสุดท้าย- ติดต่อบริษัทขนส่งเพื่อดำเนินการส่งสินค้าถึงปลายทาง
ข้อควรระวังในขั้นตอนตรวจสอบพิธีการศุลกากร
โดยหากพบว่าในขั้นตอนการทำพิธีการศุลกากรมีปัญหา เช่น การขาดเอกสาร หรือ สินค้าต้องห้าม เจ้าหน้าที่ศุลกากรอาจระงับการปล่อยสินค้าได้ อีกทั้งควรปรึกษาตัวแทนออกของ (Customs Broker) หรือ บริษัทชิปปิ้งที่มีความเชี่ยวชาญหากคุณไม่คุ้นเคยกับกระบวนการนี้ ซึ่งจะช่วยให้ดำเนินการได้อย่างเป็นระบบ และ รวดเร็วมากกว่า
โดยจากที่กล่าวมาทั้งหมดจะเห็นได้ว่าก็จะเห็นได้ว่าพิธีการศุลกากร คือ ขั้นตอนที่มีหน้าที่ในการจัดเก็บภาษีอากรการนำเข้า และ ส่งออกสินค้าต่างประเทศอย่างพิกัดอัตราอากร หรือ HS CODE ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของราชการที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยเราเชื่อว่าเมื่อคุณได้อ่านบทความนี้จบก็จะสามารถเข้าใจ วิธีการนำเข้าสินค้าโดยผ่านพิธีการศุลกากร ได้ไม่มากก็น้อย
หากต้องการความราบรื่น และ สะดวกสบายในขั้นตอนต่างๆ นั้นเราขอแนะนำ บริษัท โรเจอร์ กรุงเทพ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทชิปปิ้งที่มีระบบการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศที่หลากหลายทุกประเภท ได้อย่างมืออาชีพ อีกทั้งยังมีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ และ ประสบการณ์ ในการผ่านพิธีการศุลกากรสินค้าทุกชนิดโดยเฉพาะ อีกทั้งยังมี ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา ทางด้านการขนส่งต่างๆ ได้หลากหลายสามารถขอคำแนะนำกับทางเราได้ตลอดเวลา ทางเรามีทีมงานคอยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้กับลูกค้าได้อย่างทันที เราจึงมั่นใจว่าจะบริการทุกธุรกิจได้อย่างราบรื่นนั้นเอง
ติดต่อสอบถาม
INTERNATIONAL LOGISTICS SERVICES
Tel : +66 (0) 2 180 0280
Mobile : 06-4181-1587
Email : infoth@rogers-asia.com
INTERNATIONAL RELOCATION
Tel: +66 (0) 2 752 6417
Mobile : 081-259-5333 , 065-820-4808
Email : exhibitions@rogers-asia.com