เอกสารสำคัญที่ต้องใช้ในการขนส่งแบบ air freight
การขนส่งต่างประเทศทางอากาศ air freight นั้นไม่ยุ่งยากอย่างที่หลายๆคนคิด
การนำเข้าส่งออกสินค้านั้นมีหลากหลายรูปแบบทั้งทางเรือ ทางบก และ ทางอากาศ แต่หากจะพูดถึงการส่งสินค้าระหว่างประเทศที่เร็วที่สุดนั้นก็คือการขนส่งระหว่างประเทศทางอากาศ ถ้าสินค้ามีอายุการใช้ สินค้าเร่งรีบ ก็ควรส่งสินค้าผ่านทางเครื่องบิน ทางอากาศ (Air Freight) การขนส่งสินค้าโดยทางอากาศเป็นการขนส่งที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ประเทศต่าง ๆ มีการพัฒนาสนามบินพาณิชย์ให้ทันสมัย และ เพียงพอกับความต้องการ
บริษัทสร้างเครื่องบินมีการสร้างเครื่องบินซึ่งมีขนาดใหญ่ และ สมรรถภาพในการบินสูง สามารถบรรจุสินค้า และ บรรทุกผู้โดยสารได้มากขึ้น มีเครื่องมือในการขนส่งอันทันสมัยครบครัน เพื่อการขนส่งสินค้าดำเนินไปอย่างสะดวก และ รวดเร็วจากผู้ส่งที่เมืองต้นทางไปยังเมืองผู้รับปลายทาง แต่สิ่งสำคัญที่สุดในการขนส่งทางอากาศนั้นก็คือเอกสารที่จะใช้ในการขนส่งแบบนี้ดังนั้นในงันนี้เราจะมาอธิลบายถึงเอกสารมที่จะใช้ในการขนส่งทางอากาศกัน
การขนส่งต่างประเทศทางอากาศคืออะไร มีความสำคัญอย่างไร
การขนส่งทางอากาศ หรือ Air freight เป็นการขนส่งสินค้า หรือ พัสดุโดยใช้เครื่องบิน เป็นพาหนะหลัก ซึ่งเป็นวิธี การขนส่งที่รวดเร็ว และ มีประสิทธิภาพสำหรับการนำส่งสินค้าที่ ต้องการให้มี การเคลื่อนย้ายทางอากาศไปยังสถานที่ปลายทาง โดยมีคุณสมบัติดังนี้:
- รวดเร็ว และ ประหยัดเวลา
การส่งสินค้าที่อากาศนั้นมี ความรวดเร็วสูง เมื่อเปรียบเทียบ กับ วิธีการขนส่งอื่น ๆ เช่น ทางทางบก หรือ ทางทะเล ซึ่งช่วยให้สินค้าสามารถถึงปลายทางได้เร็ว และ ตรงต่อเวลาที่กำหนดไว้ - ประสิทธิภาพการขนส่งที่ดี
การขนส่งต่างประเทศนั้นหากเลือกส่งทางอากาศจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพ ประสิทธิผลของการขนส่งได้ดี ลดความเสี่ยงจากความเสียหายทั้งจาก ของสด และ สินค้าอื่นๆได้ - สามารถเข้าถึงได้ในหลายๆสภานที่
การขนส่งระหว่างประเทศทางทะเล และ ทางบกนั้นบางทีอาจจะมีข้อจำกัดมากมายบางพื้นที่ หรือ สถานที่ ที่ยากต่อ การเข้าถึงผ่านทางทางบก หรือ ทางทะเล การใช้เครื่องบินสามารถช่วยใน การนำสินค้าเข้าถึงพื้นที่เหล่านั้นได้ง่ายขึ้น - สามารถเร่งการผลิตของโรงงานได้
การใช้วิธีการขนส่งเครื่องจักรจากต่างประเทศทางอากาศนั้นเป็นตัวเลือกที่ช่วยให้กระบวนการผลิตสามารถเร่งการผลิตได้ไวขึ้นจะส่งผลดีต่อด้านอุตสาหกรรมอย่างดี
เอกสารสำคัญในการใช้สำหรับการขนส่งต่างประเทศทางอากาศ
การขนส่งต่างประเทศ ทางเครื่องบินแบบถึงสนามบินปลายนั้น ผู้ส่งจำเป็นต้องลงทะเบียนกับกรมศุลกากร custom clearance และ ต้องทำใบขนเพื่อเดินพิธีการศุลกากรขาออก เมื่อเตรียมสินค้าพร้อมแล้วจะต้องนำไปโหลดที่สนามบินต้นทาง แต่หากใช้บริการ บริษัทชิปปิ้งนั้นอาจจะไม่ต้องทำการลงทะเบียนกับทางศุลกากรเอง ชิปปิ้งจะเป็นผู้ดำเนินการให้โดยเอกสารที่จำเป็นต้องใช้ในการส่งออกได้แก่
- ใบขนสินค้าขาออกซึ่งลงลายมือชื่อผู้ส่งของออก/ผู้รับมอบอำนาจแล้ว จำนวน 2 ชุด
- บัญชีราคาสินค้า (Invoice) เอกสารสินค้าที่แจกแจงรายละเอียดสินค้าพร้อมมูลค่าสินค้า จัดทำโดยผู้ส่ง หรือ ผู้บรรจุสินค้า
- Air Waybill ใบตราส่งสินค้าทางอากาศ ออกโดยสายการบิน หรือ ตัวแทนสายการบิน ที่เป็นผู้ขนส่งสินค้า
- Packing list (ถ้ามี)
- รายละเอียดข้อมูลใบขนสินค้า และ ใบกำกับการขนย้ายสินค้าทางอากาศยาน 1 ชุด
แต่หากเราไม่ได้จ่างบริษัทชิปปิ้งเป็นตัวแทนในการดำเนินพิธีการศุลกากรนั้นอาจจะต้องมีขั้นตอนการปฎิบัติเพิ่งขึ้นดังต่อไปนี้
1.ผู้ส่งต้องลงทะเบียน เป็นผู้ผ่านพิธีการศุลกากร หรือ ดำเนินการในกระบวนการศุลกากร ได้ที่ทำการศุลกากรทั่วประเทศ สำหรับการลงทะเบียน ณ เขตปลอดอากรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
หลักฐานที่ใช้ในการลงทะเบียน
1.1.1 กรณีนิติบุคคล หรือ บุคคลที่เข้าระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม
1) สำเนาภาพถ่ายหนังสือรับรองการเป็นหุ้นส่วน หรือ บริษัท ซึ่งออกให้ไม่เกิน 3 เดือนจากกระทรวงพาณิชย์
2) สำเนาถ่ายบัตรประจำตัวผู้เสียภาษีอากร หรือ ภ.พ.20 หรือ ภ.พ.09
3) ต้องใช้Bank Statement หรือ สมุดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ในนามบริษัท ห้างร้าน (ถ้ามี)
4) ใช้สำเนาภาพถ่าย หรือ หนังสือรับรองตราสำคัญของบริษัท (บอจ.3) หรือ ห้างหุ้นส่วน (หส.2)**กรณีหนังสือรับรองระบุเงื่อนใขต้องประทับตราสำคัญของบริษัท หรือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด
5) บัตรประจำตัวประชาชน หรือ หนังสือเดินทาง(Passport) ของผู้มีอำนาจลงนาม
6) ใช้แบบคำขอฯตามประกาศกรมศุลกากรที่ 61/2561 และ 64/2561 เป็นต้น
ซึ่งจะเห็นได้ว่าหากไม่ได้ใช้บริการบริษัทชิปปิ้งที่มีประสบการณ์อาจจะสร้างความยุ่งยากในการขนส่งสินค้าต่างประเทศทางอากาศมากกว่าสรุปแล้วการขนส่งทางเครื่องบิน Airfreightเป็นวิธีการขนส่งสินค้าไปต่างประเทศทางเครื่องบินที่ขนส่งถึงท่าอากาศยานหรือท่าเรือปลายทางที่เหมาะสำหรับผู้ขนส่งที่ต้องการมารับสินค้าที่ท่าอากาศยานและสะดวกในการเคลียร์สินค้าด้วยตนเองสำหรับท่านใดที่ต้องการส่งออก-นำเข้าสินค้า สามารถปรึกษา บริษัท โรเจอร์ กรุงเทพ จำกัด ซึ่งมีระบบการขนส่งระหว่างประเทศที่มีมาตราฐาน รวดเร็ว แม่นยำ ปลอดภัย ทั้งใน และ ต่างประเทศ รองรับการขนส่งทั้งทางอากาศ ทางเรือ และ ทางบก จึงมั่นใจได้ว่าสินค้าของท่านจะถูกส่งมอบให้กับผู้รับ ได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว ปลอดภัย อีกทั้งยังมี ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา ทางด้านธุรกิจ สามารถขอคำแนะนำกับทางเราได้ตลอดเวลา ทางเรามีทีมงานคอยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้กับลูกค้าได้อย่างทันที เราจึงมั่นใจว่าจะบริการทุกธุรกิจได้อย่างราบรื่นนั้นเอง
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
INTERNATIONAL LOGISTICS SERVICES
Tel : +66 (0) 2 180 0280
E-mail: infoth@rogers-asia.com